คีแรนทริปเปียร์กับภารกิจสุดท้าทายในไทน์ไซด์ จบ

f:id:youngpee0110:20220120122045j:plain

86 เกมในลาลีกาสเปนกับแชมป์ลาลีกากับแอตเลติโก มาดริด คือ เครื่องยืนยันชั้นดีว่า คีแรน ทริปเปียร์เป็นหนึ่งในนักเตะชาวอังกฤษ ในตำแหน่งฟูลแบ็คที่มีฝีเท้าดีที่สุดคนหนึ่งแห่งวงการ นับว่าหาได้ค่อนข้างน้อย สำหรับนักเตะอังกฤษสักคนที่จะเลือกออกไปค้าแข้งต่างแดน เช่น เดวิด เบคแฮม,ไมเคิล โอเว่น,โอเว่น ฮากรีฟฟ์ รวมถึงกาเรธ เบล เป็นต้น ปัจจุบันฟูลแบ็ควัย 31 ปี ย้ายมาร่วมทีมนิวคาสเซิลกับภารกิจสุดท้ายอีกครั้ง หากไม่ใช่การล่าแชมป์ แต่กลับเป็นภารกิจหนีตกชั้น เดอะแม็กพายส์จะได้อะไรจากทริปเปียร์ ประวัตินักฟุตบอล

 

ทริปเปียร์สมัยไฮท์สคูล

คีแรน ทริปเปียร์ เติบโตมาจากย่าน บิวรี่ ในเมืองแมนเชสเตอร์ เขาจบโรงเรียน วูดเฮย์ ไฮท์ สคูล ใน แรมส์บอตทอม บิวรี่ เกียร์เทอร์ แมนเชสเตอร์ “ตอนที่เขาอยู่โรงเรียนไฮท์สคูล ผู้คนต่างจับตามองเขา” ลี แกร๊กกา อดีตครูสอนวิชาพละของ ทริปเปียร์เผย “เขาจะพยายามทำทุกทางให้ทุก ๆ คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขามีส่วนร่วมเสมอ ทั้งในชั้นเรียน รวมถึงการแข่งขันกีฬา หากมีใครหนึ่งที่เขาไม่โอเค เขาจะมีชี้นิ้ว หรือตำหนิคนเหล่านั้น” “เขาบอกเสมอว่า เราต้องแก้ไขปัญหานี้ แต่เราจำเป็นต้องแก้ปัญหาด้วยกัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลย หากเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมนิวคาสเซิลในไม่ช้านี้” อดีตครูพละ อดีตฟูลแบ็คท็อตแน่มเผย เว็บข่าวบอล 

“เรามีเกมนัดชิงชนะเลิศเกมหนึ่ง สมัยไฮท์สคูล กับถ้วยรางวัลอายุ 10 ปี กับโรงเรียนคู่ปรับที่เอาชนะพวกเราเมื่อปีก่อน” “เหล่าเด็ก ๆ มารวมกันก่อนเกม สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เขาพูดบางอย่างเขาพยายามกระตุ้น สุดท้ายเราชนะ 4-1 คีแรนทำแฮตทริกได้ ทั้งหมดไม่ได้เกิดจากฉัน แต่ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคีแรนไอ้เด็กหนุ่มที่มีภาวะผู้นำค่อนข้างสูงคนนั้น” ลี อดีตครูพละกล่าว

ครั้งหนึ่งกับฉายาเบคแฮมแห่งบิวรี่

“ที่บิวรี่ ในสมัยที่เขายังเป็นนักฟุตบอลระดับไฮท์สคูล เขาคือ เบคแฮมแห่งบิวรี่ รวมถึงเวย์น รูนีย์ ผสมกัน” การ์คก้า กล่าว “แต่เมื่อเขาย้ายไปที่ซิตี้ เขาได้รับบทบาทแบ็คขวา” การ์กก้า กล่าวย้อนความหลัง   เว็บข่าวกีฬา

“เช้าวันอาทิตย์วันหนึ่ง เรามีเกมพบดาร์บี้ เคาน์ตี้ ขณะนั้นทีมของเราขาดแนวรับ เกมนั้นเราจึงจับเขาไปเล่นแบ็คขวาแทน” จิม คาสเซลล์เผย “หลังจากที่เขาได้รับบทบาทดังกล่าว เขาสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี เขารู้ว่าเขาต้องทำอย่างไรและเมื่อไหร่ เขาเคลื่นไหวได้ดี รวดเร็ว และที่สำคัญเขายังสามารถเปิดบอลได้ขนาดวิ่งเหมือน เดวิด เบคแฮมเลยทีเดียว ในตอนนั้นเขาคือ สวรรค์ของกองหน้าอย่างแท้จริง”

“เขาครองบอลได้เก่งมาก เขาเป็นนักฟุตบอลที่ฉลาด และมีความเป็นผู้นำที่ค่อนข้างถ่อมตัว เขาไม่ตะโกนมั่วสั่ว” เดวิด เอ็ดก้า อดีตเพื่อนร่วมทีมสมัยเบิร์นลีย์กล่าว

 

อ่านข่าวล่าสุดได้ที่ :: ประวัตินักกีฬา

 

 

อนาคตของแรมซีย์ในฤดูหนาวจะเป็นจะอย่างไร

f:id:youngpee0110:20220115145452j:plain

เรื่องราวของอารอน แรมซีย์นั้นยังไม่จบ จากนักเตะที่เติบโตมาจาก เมืองคาร์ดิฟฟ์ ในประเทศเวลส์ สู่จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตคือการเซ็นสัญญากับอาร์เซน่อล จากนักเตะที่มีเพียงแค่หน้าตา สู่ความใจสู่จนครั้งหนึ่งเขาเคยขาหัก ในเกมพรีเมียร์ลีก 1 ปีเศษหลังจากนั้น มิดฟิลด์ชาวเวลส์กลับมาอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง จนได้รับความไว้วางใจจาก อาร์เซน เวงเกอร์ ในขณะนั้น มอบตำแหน่งกัปตันทีม สู่จุดหักเหของชีวิต ในวัย 31 ปี เมื่อเขาเป็นเพียงส่วนเกิน กับอนาคตช่วงท้ายค้าแข้งในชีวิต

 

โอกาสในการคืนสู่พรีเมียร์ลีก

รายงานล่าสุดพบว่า อารอน แรมซีย์เพิ่งปฏิเสธข้อเสนอจากสโมสรเบิร์นลียไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความต้องการ ในการย้ายกลับไปพรีเมียร์ลีกอีกครั้งหนึ่ง เมื่อกองกลางชาวเวลส์ปฎิเสธโอกาสในการกลับพรีเมียร์ลีกจากเบิร์นลีย์ ดังนั้นค่อนข้างชัดเจนว่าทีมเต็ง หรือตัวใบสุดท้าย ในการย้ายกลับพรีเมียร์ลีกอีกครั้งของแรมซีย์ก็คือ สโมสรนิวคาสเซิล หลังเป็นที่รู้กันดีว่า แรมซีย์เหลือสัญญากับยูเวนตุสอย่างน้อย 1 ปี 6 เดือนค่าเหนื่อย 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ค่อนข้างแน่นอนว่ามีเพียงทีมเดียวที่กำลังมองหานักเตะใหม่ ๆ รวมถึงทรัพยากรที่มีไม่อั้นเช่น เงิน

อย่างไรก็ตาม คริสตัล พาเลซก็คือ 1 ในนั้น หลังอดีตกองกลางอาร์เซน่อลอย่าง ปาทริค วิเอร่า สนใจเซ็นสัญญากองกลางรายนี้เช่น และดูเหมือนวิเอร่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากอดีตผู้อำนวยการเทคนิคทีมชาติเวลส์ แน่นอนว่า โอเซียน โรเบร์ตส์ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ กองกลางวัย 31 ปี สำหรับโอกาสในการย้ายกลับอาร์เซน่อลอีกครั้ง ดูเหมือนโอกาสจะมีน้อยมาก ๆ นอกจากพาเลซ นิวฯแล้ว ยังมีเอฟเวอร์ตัน,ลีดส์ ยูไนเต็ด และสโมสรในสเปน เยอรมัน รวมถึงฝรั่งเศสอีกด้วย เว็บข่าวบอล 

อุปสรรคในการย้ายทีมของแรมซีย์ ?

ผลกระทบจากโควิด-19 ระบาดทั่วทั้งโลกรวมถึงทวีปยุโรป และโดยเฉพาะวงการฟุตบอล ส่งผลให้สโมสรทั้งหมดในโลกฟุตบอลได้รับผลกระทบ ในแง่ของรายได้ไปแบบเต็ม ๆ ดังนั้นค่าแรงที่สูงของแรมซีย์จึงเป็นปัญหาหลัก สำหรับโอกาสในการหาทีมใหม่ ด้านเพื่อนซี้ของแรมซีย์ และอดีตนักเตะทีมชาวเวลส์อย่าง แดนนี่ แกบบิดอน กล่าวว่าเงินเดือนที่ค่อนข้างสูงเป็นเรื่องยากเสมอในการหาทีมใหม่

“หากตัดเรื่องค่าจ้างออกไป และโฟกัสที่ทีมฟุตบอล ผมไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมเขาต้องย้ายไปที่เบิร์นลีย์ แน่นอนเพราะเป็นแนวทางที่พวกเขาเล่น” แกบบิดอนกล่าวเสริม “มันเป็นการย้ายที่ถอยหลังสุด ๆ หากเขาต้องย้ายจากยูเวนตุสไปเบิร์นลีย์ ผมมองไม่เห็นโอกาส โดยเฉพาะแนวทางการเล่น” แกบบิดอนเน้นย้ำ

อย่างไรก็ตาม แกบบิดอน แนะนำว่าสโมสรที่เหมาะกับแรมซีย์ที่สุด ในขณะนี้ก็คือ เลสเตอร์ ซิตี้ของเบรนแดน รอดเจอร์ส บางทีรอบนี้ ยูเวนตุสอาจยอมใจอ่อน ปล่อยตัวแบบฟรี ๆ เพราะพวกเขาไม่ต้องการแบกรับค่าเหนื่อยสูงขนาดนี้อีกแล้ว ในขณะที่นักเตะนักอยู่ข้างสนาม

 

อ่านข่าวเพิ่มเติมที่ :: เว็บข่าวบอล

แฟนเพจเฟสบุ๊ค :: Extremesoccer89

ทีมอื่นยังมีโอกาสลุ้น หลังเอเยนต์ปฏิเสธข่าวฮาแลนด์ตกลงเซ็นสัญญากับเรอัล มาดริดเรียบร้อยแล้ว

f:id:youngpee0110:20211226131306j:plain

เรียกได้ว่าเป็นนักเตะฟอร์มดีที่ฮอตที่สุดในขณะนี้ก็ว่าได้สำหรับเออร์ลิง ฮาแลนด์ นักเตะกองหน้าชื่อดังจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรดังในลีกบุนเดสลีกา เยอรมัน ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขานั้นทำให้หลายสโมสรในยุโรปถูกตาต้องใจเขาเป็นอย่างมากและมีหลายสโมสรเลยทีเดียวที่พยายามจะดึงตัวเขาเข้าร่วมทีมให้ได้

 

เพราะหากได้เขาเข้าร่วมทีมแล้วล่ะก็เชื่อได้เลยว่าเขานั้นจะกลายมาเป็นเขี้ยวเล็บให้กับทีมได้อย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางสโมสรต้นสังกัดอย่างโบรุสเซียเองได้มีการออกมากล่าวว่าจะไม่มีการปล่อยตัวนักเตะผู้นี้แต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่าข่าวลือเรื่องการย้ายสโมสรของนักเตะก็ยังคงโหมกระหน่ำอยู่เป็นระยะ มีข่าวมากมายเกี่ยวกับสโมสรที่เข้ามาพัวพันกับนักเตะชื่อดังผู้นี้ โดยเฉพาะสโมสรเรอัล มาดริดที่มีข่าวค่อนข้างหนาหูเลยทีเดียวว่านักเตะคนดังนั้นได้ตกลงที่จะเซ็นสัญญากับสโมสรดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ทำเอาสโมสรทั้งหลายในยุโรปต่างก็อกหักไปตามๆ กัน แต่อย่างไรก็ตามล่าสุดมิโน่ ไรโอล่าซึ่งเป็นเอเย่นต์ของเออร์ลิง ฮาแลนด์ได้มีการออกมาเปิดเผยว่านักเตะยังไม่ได้ตกลงที่จะเซ็นสัญญากับสโมสรเรอัล มาดริดเหมือนกับที่มีข่าวก่อนหน้านี้แต่อย่างใด ทำเอาหลายสโมสรในยุโรปตาลุกวาวกันเลยทีเดียวเพราะเท่ากับว่าพวกเขาทุกคนนั้นยังมีโอกาสในการดึงตัวนักเตะผู้นี้เท่ากัน 

 

เออร์ลิง ฮาแลนด์นั้นเป็นนักเตะที่สามารถทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องแต่อย่างไรก็ตามเงื่อนไขสัญญาของเขากับโบรุสเซียนั้นมีเงื่อนไขที่ทำให้เขามีค่าฉีกสัญญาสูงถึง 75 ถึง 100 ล้านยูโรเลยทีเดียวเมื่อเวลาดำเนินไปจนถึงซัมเมอร์ในปีหน้า เรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่มีราคาสูงเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้นเอเยนต์ของเขายังต้องการค่านายหน้าเพิ่มแยกออกมาอีก 45 ล้านยูโรอีกต่างหาก ยิ่งทำให้ค่าตัวของเขานั้นพุ่งสูงขึ้นมากกว่าเดิมไปอีก

 

มันจะมีเพียงแค่ไม่กี่สโมสรเท่านั้นที่จะมีความสามารถทางการเงินในการดึงตัวนักเตะผู้นี้เข้าร่วมทีมได้และหนึ่งในนั้นก็คือสโมสรเรอัล มาดริด สโมสรที่มีข่าวลือหนาหูว่าสามารถดึงตัวแทนเข้าร่วมทีมได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตามอย่างที่เอเยนต์ได้ออกมาแก้ข่าวว่าทางนักเตะในสังกัดของตนเองนั้นยังไม่ได้เซ็นสัญญากับสโมสรใดทั้งนั้น ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงกับฮาแลนด์แต่อย่างใด ปัจจุบันนักเตะจะสามารถรอทีมไหนก็ได้

 

เนื่องจากยังไม่ได้มีการทำข้อตกลงกับสโมสรใดทั้งสิ้น โดยเรานั้นจะมองหาทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักเตะและตนเองก็ไม่เคยปิดความเป็นไปได้ที่นักเตะจะอยู่กับโบรุสเซียต่อไปเป็นเวลาอีก 1 ปีเช่นเดียวกัน 

 

อ่านข่าวเพิ่มเติมที่ :: ข่าวกีฬาออนไลน์

แฟนเพจเฟสบุ๊ค :: Extremesoccer89

ประเด็นร้อน โรเบิร์ตสันถูกใบแดงไล่ออกจากสนามนัดพบกับสเปอร์

f:id:youngpee0110:20211223115555j:plain

การแข่งขันระหว่างลิเวอร์พูลและท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมานั้นเรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นเป็นอย่างมาก ซ้อมการแข่งขันของทั้งสองทีมนั้นเรียกได้ว่าสูสีจนทำให้สุดท้ายแล้วก็จบเกมไปได้เพียงแค่เสมอกันด้วยคะแนน 2 ประตูต่อ 2 เท่านั้น

แต่การแข่งขันในครั้งนี้ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจนั่นก็คือการได้ใบแดงไล่ออกจากสนามของแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน นักเตะที่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในการทำแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมอย่างดิโอโก้ โชต้าสามารถทำประตูตีเสมอได้ด้วยคะแนน 1 ประตูต่อ 1 และตัวเขาเองก็ยังสามารถทำประตูขึ้นนำสเปอร์สได้สำเร็จด้วยคะแนน 2 ประตูต่อ 1 อีกด้วยในนาทีที่ 77

 

แม้ว่าเขาจะเล่นแบบขาดสติไปสักเล็กน้อยจนเตะใส่เอ็มเมอสัน รอยัลทำให้ถูกใบเหลืองไป แต่กลายเป็นว่ากรรมการได้ไปเช็คผ่าน var แล้วก็ได้เปลี่ยนคำตัดสินให้กลายเป็นใบแดงแทนทำให้เขานั้นถูกไล่ออกจากสนามในทันที เขาจึงกลายมาเป็นนักเตะคนแรกที่สามารถทำประตู ทำแอสซิสต์ และถูกไล่ออกจากสนามในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดตั้งแต่สมัยที่อเล็กซานดาร์ มิโตรวิชทำไว้ในเดือนพฤษภาคมตั้งแต่ปี 2016

 

โดยเขาได้ออกมากล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่าเขานั้นขอรับผิดชอบทั้งสิ่งที่เขาได้ทำผิดไปทั้งหมดและเขาต้องยอมรับว่าเขานั้นเข้าเสียบสกัดได้แย่และผิดพลาดมาก ความผิดพลาดของเขาทำให้ทีมคู่แข่งมีโอกาสได้ยิงประตูตัดสินและมันแย่มาก บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องดีที่เขาจะไม่ออกมาพูดเกี่ยวกับหลายสิ่งที่เกิดขึ้นในการแข่งขันครั้งนี้มากไปกว่าการที่พูดว่าเขาภูมิใจมากแค่ไหนที่ได้ร่วมงานกับเพื่อนร่วมทีมทุกคน

 

ไม่เพียงเท่านั้นเจ้าตัวยังกล่าวเสริมอีกว่านอกจากตัวเขาแล้วเพื่อนร่วมทีมทุกคนนั้นสามารถสร้างผลงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบาก เสียงเชียร์จากแฟนบอลทุกคนนั้นสุดยอดเป็นอย่างมากในช่วงเวลาที่ย่ำแย่ หวังว่าเราจะได้รางวัลด้วยชัยชนะ จากประเด็นดังกล่าวนี้หลายคนค่อนข้างกังขาไม่น้อยเลยทีเดียวเนื่องจากกรรมการได้มีการเปลี่ยนการตัดสิน แต่อย่างไรก็ตามกองหน้าจากสเปอร์สอย่างแฮร์รี่ เคนได้ออกมายืนยันอย่างหนักแน่นว่าเป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่ตนเองนั้นไม่ได้ถูกไล่ออกจากสนามในการแข่งขันครั้งนี้ในจังหวะที่เขายันใส่แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน โดยเขาได้กล่าวว่ามันเป็นการเข้าสกัดที่หนักหน่วงเขาคิดว่าเขาชนะในการแย่งบอลและแน่นอนว่าเขายังไม่เห็นอีกครั้ง

 

เมื่อคุณต้องเล่นกับทีมยอดเยี่ยมและการต่อสู้ในการเก็บแต้มบางครั้งมันก็มีการเข้าสกัดที่รุนแรง หลังมีการเช็คดูแล้วเราก็เล่นกันต่อ โรเบิร์ตสันยืนขึ้นได้และเขายังบอกอีกว่านายยันใส่เท้าของฉันแต่มันเป็นสิ่งที่ var เห็นอย่างชัดเจนแล้ว ตัวเขาไม่ได้กังวลที่จะได้ใบแดงแต่อย่างใดแต่บอกตามตรงว่าเขาเซอร์ไพรส์ด้วยซ้ำที่ได้รับใบเหลือง หลังจากนั้นก็ยังเอ่ยอีกว่ามันเป็นเกมที่ดีที่เขาได้มีส่วนร่วมและมั่นใจว่ามันจะเป็นเกมที่ดีต่อการรับชมเช่นเดียวกัน ทั้งสองทีมและมีโอกาสและเราน่าจะทำให้ดีกว่านี้ มันเป็นเกมที่ยากในการดวลกับทีมที่ดี 

 

อ่านข่าวเพิ่มเติมที่ :: ข่าวกีฬาออนไลน์

แฟนเพจเฟสบุ๊ค :: Extremesoccer89

ย้อนดูผลงานระดับตำนานของอเกวโร่ นักเตะมากความสามารถที่ต้องแขวนรองเท้าสตั๊ดจากอาการบาดเจ็บ

f:id:youngpee0110:20211222163914j:plain

นับเป็นเรื่องน่าเสียดายเป็นอย่างมากสำหรับวงการฟุตบอลระดับโลกหลังจากที่เซร์คิโอ อเกวโร่นั้นได้มีการออกมาประกาศแขวนรองเท้าสตั๊ดเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่อยู่กับสโมสรใหม่อย่างบาร์เซโลนาได้เพียงแค่ไม่นานเท่านั้นหลังจากที่ตรวจพบว่าเขานั้นมีอาการป่วยเกี่ยวกับอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ

 

ทีมแพทย์ได้ลงความเห็นว่าเขานั้นควรตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นนักเตะเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ สุดท้ายแล้วนักเตะทีมชาติอาร์เจนตินาวัย 33 ปีผู้นี้ก็จำเป็นต้องจากลาการเป็นนักเตะมืออาชีพที่เขาใฝ่ฝันไปทั้งน้ำตา แต่สิ่งที่เขาเหลือทิ้งไว้ให้กับวงการฟุตบอลก็คือผลงานระดับตำนานที่ทำให้เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดในโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาย้อนดูผลงานระดับตำนานของเขากัน 

  1. ค่าเฉลี่ย อเกวโร่นั้นเป็นนักเตะอันดับ 4 ในชาร์ตของนักเตะดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในการแข่งขัน Premier League หนังจากสามารถทำไปได้ถึง 148 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 275 นัด ถ้าวัดที่ค่าเฉลี่ยแล้วเขาเป็นนักเตะที่มีค่าเฉลี่ยในการทำประตูดีที่สุดตลอดกาลในพรีเมียร์ลีก โดยเขาสามารถทำได้ 1 ประตูทุกการแข่งขันเป็นเวลา 108 นาที และยังเป็นนักเตะที่มีค่าเฉลี่ยในการทำประตูเวลาเจอทีมใหญ่สูงสุดเป็นอันดับ 4 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกด้วย
  2. การทำแฮตทริก เขานั้นเป็นนักเตะที่สามารถทำแฮตทริกได้ทั้งหมดถึง 18 ครั้งตลอดการเป็นนักเตะมืออาชีพ 18 ปีที่ผ่านมา โดยทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกทั้งหมดถึง 12 ครั้งทำให้เขานั้นเป็นนักเตะในตํานานที่สามารถทำแฮตทริกได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขัน Premier League เลยทีเดียว
  3. ทีมเหยื่อ อเกวโร่เป็นนักเตะที่สามารถทำประตูได้ถึง 128 ทีมเลยทีเดียว แต่สโมสรเหยื่อที่เขาสามารถทำประตูได้สูงที่สุดนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นเชลซีและนิวคาสเซิลที่ถูกทำไปทั้งหมดถึง 15 ประตูด้วยกัน โดยประตูที่เกิดจากเชลซีนั้นเกิดจากการแข่งขันทั้งหมด 23 นัด ส่วนนิวคาสเซิลพบกันเพียงแค่ 15 นัดเท่านั้น
  4. ผลงานที่สม่ำเสมอ ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่เขาอยู่ร่วมกับสโมสรแมนซิตี้เขาสามารถทำประตูในการแข่งขันได้ทั้งหมดอย่างน้อย 20 ลูกเป็นระยะเวลาติดต่อกันถึง 6 ฤดูกาลเลยทีเดียว มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำได้ 20 ลูกต่อหนึ่งฤดูกาลเป็นจำนวนมากกว่าเขานั่นก็คือ 7 ฤดูกาลนั่นก็คืออลัน เชียเรอร์
  5. สถิติการเปิดตัวและปิดตัว นัดประเดิมสนามของเขากับแมนซิตี้นั้นคือการพบกับสวอนซีในปี 2011 แม้ว่าเขาจะลงเล่นเป็นตัวสำรองแต่กลับสามารถทำได้ถึง 2 ประตู และการแข่งขันครั้งสุดท้ายของเขาในสโมสรแมนซิตี้คือการเป็นตัวสำรองนัดพบกับเอฟเวอร์ตันในปี 2021 เขาสามารถทำได้อีก 2 ประตูเช่นเดียวกับนัดแรกที่เปิดตัว เขาจึงเป็นนักเตะคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำได้ 2 ประตูในการแข่งขันรอบเปิดตัวและปิดตัว

 

อ่านข่าวเพิ่มเติมที่ :: ข่าวกีฬาออนไลน์

แฟนเพจเฟสบุ๊ค :: Extremesoccer89

รวมนักเตะทีมยอดเยี่ยมในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกสัปดาห์ที่ 16

f:id:youngpee0110:20211219143410p:plain

การแข่งขันพรีเมียร์ลีกในสัปดาห์ที่ 16 ที่ผ่านมานี้ถือว่าเป็นการแข่งขันที่มีความน่าสนใจมากอยู่หลายคู่เลยทีเดียว สโมสรที่ห่างหายจากการติดอันดับทีมยอดเยี่ยมไปนานอย่างเลสเตอร์ ซิตี้ก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนค้าติดอันดับได้สำเร็จ

 

ในขณะเดียวกันเองสโมสรใหญ่ทั้งแมนยู แมนซิตี้ เชลซี ลิเวอร์พูล อาร์เซนอล และสเปอร์ก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนนักเตะขึ้นมาติดอันดับได้ทั้งหมด การแข่งขันครั้งนี้นักเตะคนไหนจะสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมบ้างวันนี้เราจะพาไปดูกัน 

  1. ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่สามารถรักษาประตูได้อย่างงดงามจนทำให้สโมสรสามารถเอาชนะได้สำเร็จในที่สุดและเป็นการเก็บคลีนชีตครั้งที่ 2 แล้วในยุคของกุนซือคนใหม่
  2. อันโตนิโอ รูดิเกอร์ กองหลังจากเชลซีที่ผลงานอาจจะไม่ได้โดดเด่นในส่วนของเกมรับแต่เขามีส่วนสำคัญในเกมรุกที่ทำให้ทีมสามารถทำได้ถึง 2 ประตูด้วยกันแถมยังเป็นคนที่เรียกจุดโทษให้กับทีมอีกด้วย
  3. กาเบรียล มากัลเญส กองหลังจากอาร์เซนอลที่จะขาดไปไม่ได้เลยเพราะเขาช่วยให้แนวรับของทีมมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นและสามารถเติมเกมบุกได้อย่างยอดเยี่ยม
  4. เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กล้องหลังจากลิเวอร์พูลที่แม้ในช่วงแรกจะมีปัญหาจนได้ใบเหลืองแต่ในช่วงหลังผลงานก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและสามารถหยุดไม่ให้ทีมคู่แข่งสามารถทำประตูได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
  5. คอเนอร์ กัลลาเกอร์ กองกลางจากคริสตัล พาเลซที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากหลังพ่ายแพ้มา 3 นัดติดกัน แต่ในครั้งนี้นักเตะที่ยืมตัวมาจากเชลซีกลับสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจงช่วยให้ทีมผ่านพ้นวิกฤตได้สำเร็จในที่สุด
  6. เจมส์ แมดดิสัน กองกลางจากเลสเตอร์ ซิตี้ที่กลับมามีผลงานดีอีกครั้งหลังจากที่ก่อนหน้านี้ผลงานตกลงอย่างเห็นได้ชัด เขามีส่วนร่วมกับการทำประตูโดยตรงมากที่สุดอีกคนหนึ่งในพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว
  7. จอร์จินโญ่ กองกลางจากเชลซีที่ในครั้งนี้ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้งหลังผลงานหลุดทะเลออกไปไกลเมื่อ 2 เกมที่แล้ว สามารถเอาชนะลูกจุดโทษได้สำเร็จจนคว้าชัยชนะเหนือลีดส์ ยูไนเต็ดได้ในที่สุด
  8. เฟร็ด กองกลางจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ก่อนหน้านี้ถูกสอบสวนด้วยผลงานที่ย่ำแย่ หลังจากเปลี่ยนกุนซือเขากลับสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแถมยังเข้าประทับบนได้สำเร็จกว่า 7 ครั้งเลยทีเดียว
  9. ยูรี ตีเลอมันส์ กองกลางจากเลสเตอร์ ซิตี้ที่หายหน้าหายตาไปหลายเกมก่อนจะกลับมาด้วยผลงานยอดเยี่ยมด้วยการทำ 2 ประตูชนะนิวคาสเซิลแบบถล่มทลาย
  10. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าจากลิเวอร์พูลที่ไม่พูดถึงไม่ได้เพราะถึงแม้ว่าฟอร์มในครั้งนี้จะค่อนข้างฝืดเคืองแต่เขาก็ยังคงเป็นที่พึ่งพาของทีมในการทำประตูคว้าชัยชนะได้สำเร็จ
  11. ราฮีม สเตอร์ลิง กองหน้าจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ในครั้งนี้มีส่วนร่วมกับเกมแทบจะตลอดเวลาและยังสามารถยิงจุดโทษได้อย่างยอดเยี่ยมจนเป็นเหตุให้แมนซิตี้สามารถชนะวูล์ฟแฮมป์ตันได้สำเร็จ และมันยังกลายเป็นประตูที่ 100 ของเขาในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกด้วย

 

อ่านข่าวเพิ่มเติมที่ :: ข่าวกีฬาออนไลน์

แฟนเพจเฟสบุ๊ค :: Extremesoccer89

เจอร์ราร์ดเปิดใจ หลายปีก่อนได้รับคำแนะนำยอดเยี่ยมจากนายเก่าอย่างเจอร์เกน คล็อปป์

f:id:youngpee0110:20211217150439j:plain

สตีเวน เจอร์ราร์ดก่อนที่จะมารับบทบาทเป็นกุนซือประจำสโมสรในพรีเมียร์ลีกอย่างแอสตัน วิลล่า ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นนักเตะในตํานานประจำสโมสรลิเวอร์พูลที่เคยฝากผลงานไว้มากมาย แม้ว่าในปัจจุบันนี้เขาจะผันตัวไปเป็นกุนซือให้กับสโมสรอื่นในพรีเมียร์ลีกแต่เขาก็ยังเป็นนักเตะในความทรงจำของแฟนบอลหลายคน

 

และหลายคนก็ยังชื่นชอบเขาแม้ว่าจะอยู่ในฐานะกุนซือก็ตาม โดยเขาได้มีการออกมาเปิดเผยว่าตนเองนั้นได้รับคำแนะนำจากนายเก่าอย่างเจอร์เกน คล็อปป์เมื่อหลายปีที่แล้วไม่ว่าจะเป็นการทำทีมในแบบที่ตัวเองต้องการ หรือถ้าจะทำทาสก็ต้องทำในจังหวะที่กล้องมองไม่เห็น ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่ว่าการแข่งขันในวันที่ 11 ธันวาคมเป็นการแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดพบกันระหว่างลิเวอร์พูลและแอสตัน วิลล่ามันจึงเป็นการกลับมาพบกันระหว่างนายเก่าและอดีตนักเตะคนดัง มันจึงทำให้หลายคนนั้นจับตามองเป็นอย่างมาก

 

โดยเจอร์ราร์ดได้มีการออกมาเปิดเผยว่าเขานั้นต้องการจะให้เกมดังกล่าวมีผลการแข่งขันที่ดีเท่านั้น ดังนั้นแฟนแอสตัน วิลล่าที่หวานใจก็คงจะเบาใจไปได้มากเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามกุนซือมือใหม่ผู้นี้ไม่ได้เป็นปรปักษ์กับสโมสรลิเวอร์พูลแต่อย่างใด เขายังคงมีความสัมพันธ์อันดีเพียงแต่ต้องทำหน้าที่กุนซือประจำวิลล่าเท่านั้น 

 

 

สตีเว่น เจอร์ราร์ดนั้นไม่ได้ทำงานร่วมกับเจอร์เกน คล็อปป์สมัยที่เขายังเป็นนักเตะแต่อย่างใด แต่พวกเขาได้มีโอกาสร่วมงานกันตอนที่เจอร์ราร์ดมาทำงานเป็นโค้ชในทีมเยาวชนของลิเวอร์พูลช่วงปี 2017 ก่อนที่จะย้ายไปคุมทีมเรนเจอร์และประสบความสำเร็จอย่างงดงามแล้วถูกดึงตัวกลับมายังพรีเมียร์ลีกเพื่อคุมทีมแอสตัน วิลล่า เขาได้ออกมาเปิดเผยว่าตนเองนั้นเป็นหนี้บุญคุณของเจอร์เกน คล็อปป์ตลอดไป คำแนะนำที่ดีที่สุดที่เขาได้รับคือการหาทีมที่เหมาะสมกับตัวเองและทำทีมในแบบที่ตัวเองต้องการ อยากให้ทีมออกมามีเอกลักษณ์ในรูปแบบไหนก็ทำ และถ้าจะทำพลาดก็ต้องทำในตอนที่ไม่มีกล้องจับเท่านั้น ให้พัฒนาตัวเองและสร้างการเดินทางเป็นของตัวเอง

 

ไม่ว่าจะต้องการความช่วยเหลือแบบไหนเขาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือตนเองเสมอ มันเป็นคำแนะนำที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากสำหรับคนที่เพิ่งจะแขวนรองเท้าสตั๊ดหลังจากที่เป็นนักเตะมานานและมีความทะเยอทะยานในการทำงานเป็นกุนซือคุมทีม หลังการพูดคุยกันในครั้งนั้นเขายังคิดเลยว่ายังไม่มีโอกาสที่จะได้มาเจอกันเร็วขนาดนี้ มันจึงเป็นความท้าทายที่เขานั้นตั้งตารอแบบใจจดใจจ่อ 

 

อ่านข่าวเพิ่มเติมที่ :: ข่าวกีฬาออนไลน์

แฟนเพจเฟสบุ๊ค :: Extremesoccer89